วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ข่าวการกระทำผิด พรบ. เกี่ยวกับ คอมพิวเตอร์




         ไอซีทีเผย มีผู้แจ้งถูกเจาะข้อมูลเอเมลล์ 10 กว่าราย ปลอมตัวเป็นเจ้าของอีเมลล์ หวังหลอกลวงให้ส่งเงิน ระบุตรวจสอบลำบอก แต่หากจับได้ มีความผิดเข้าข่าย มาตรา 5 และ 7 ใน พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำทางคอมพิวเตอร์ฯ มีโทษทั้งจำทั้งปรับ

         นายวินัย อยู่สบายผู้อำนวยการสำนักกำกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ( ไอซีที ) กล่าวว่า จณะนี้มีผู้ใช้อีเมลล์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ เช่น hotmail Yahoo เป็นต้น แจ้งเรื่องร้องเรียนเข้ามายังกระทรวงไอซีทีประมาณ 10 รายซึ่งมีปัญหาในลักษณะเดียวกันคือ ถูกแฮคเกอร์ หรือนักเจาะข้อมูลในอีเมลล์ปลอมแปลงตัวเป็นเจ้าของอีเมลล์นั้น แล้วเขียนข้อความว่ากำลังมีความเดือดร้อน เรื่องเงินอย่างหนัก ส่งไปยังรายชื่ออีเมลล์ที่เรารู้จัก หรือติดต่ออยู่นั้น เพื่อหลอกลวงให้ส่งเงินไปช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยมีการแก้ไขรหัสผ่านเพื่อไม่ให้ผู้เป็นเจ้าของเข้าใช้งานได้อีก

                นายวินัยกล่าวว่า ส่วนใหญ่เป็นการกลั่นแกล้งจากเพื่อนหรือบุคคลใกล้ชิดที่รู้รหัสผ่านอีเมลล์ หรือ ขโมยรหัสผ่านซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็นอีเมลล์สาธารณะ โดยมีรูปแบบเข้าไปเปลี่ยนรหัสผ่าน โดยที่เจ้าของไม่สามารถเข้าอีเมลล์ของตัวเองได้ ทั้งนี้ จากการใช้อีเมลล์แล้วมีผู้มาเจาะข้อมูลนั้นเป็นเรื่องที่ตรวจสอบยาก แต่ก็สามารถดำเนินการเอาความผิดต่อผู้กระทำความผิดได้ หากเจ้าของอีเมลล์ สามารถยืนยันกับผู้ให้บิรการอีเมลล์ว่า ได้สมัครโดยใช้ชื่ออีเมลล์นี้อย่างถูกต้อง 


              "วีธีการตรวจสอบ ค่อนข้างยุ่งยาก เพราะผู้ใช้บริการต้องยืนยันข้อมูลแรกที่ได้กรอกลงไปยังใบสมคัรเพื่อขอใช้ เปิดอีเมลล์ หรือขอรหัสผ่านคืน แต่ถ้าหากส่งข้อมูลผิดหรือจำไม่ได้ ก็แก้ไขลำบาก ส่วนถ้าเป็นการขโมยรหัสผ่าน หรือเจาะข้อมูล ของอีเมลล์กลาง หน่วยรัฐ ทางกระทรวงไอซีทีสามารถดำเนินการเอาความผิดได้ทันที " ผอ. สำนักกำกับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกล่าว

                       อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีผู้เจาะข้อมูล หรือ ขโมยรหัสผ่านเืพ่อกระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เป็นการกระทำความผิด พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 ใน มาตรา 5 ผู้ใดเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตราการป้องกันโดยมิชอบ และการเข้าถึงนั้น มิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ มาตรา 7 ผู้ใดเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่มีมาตราการป้องกันโดยมิชอบ อีกทั้งการเข้าถึงนั้น มิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 40000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สรุปข่าว  :  ผู้ใช้อีเมลล์ ส่วนหนึ่งที่เป็นผู้เสียหายได้เข้าแจ้งกับกระทรวงไอซีที ซึ่งการตามจับผู้กระทำผิด
นั้นทำได้ยาก และ ส่วนใหญ่ เหตุที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากคนใกล้ชิด แต่ถึงอย่างไรก็ยังมีแนวทางในการตามจับผู้กระทำผิดและลงโทษ ตามตัวบทกฎหมายได้แ่น่นอน

ความผิด : มาตรา ที่ 5 จำคุกไม่เกิน 6เดือน ปรับ ไม่เกิน 10000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
                 มาตราที่ 7 จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

การป้องกัน : ควรระวังการล็อกอินในร้านอินเตอร์เน็ทค่า หรือ เครื่องของผู้อื่น  ไม่ควรบอกรหัสผ่านแก่ผู้ใด และหมั่นเปลี่ยนรหัสผ่านทุกๆ สามเดือน เป็นต้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น